วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ดอกกุหลาบ

ตอนนี้ใกล้วันแห่งความรักแล้วเลยเอาตำนานดอกกุหลาบมาฝากจ้า



          กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย

               ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่าง ๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย

              ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรด์จีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย
 
              กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม
 

               บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง
 
               กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ






















 เพื่อนๆ อยากได้ดอกกุหลาบช่อไหนกัน ?

  ที่มา http://th.88db.com/th/Knowledge/Knowledge_Detail.page?kid=7982





 



 

ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน

Blue Rose




 











Blue Rose ราคาในบ้านเราดอกละพันกว่าบาท  มีใครอยากซื้อให้แก้วหรือกเปล่า

ที่มา http://www.junglegui.com/diary/%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99-%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C.html

ดอกแก้วเจ้าจอม



ดอกแก้วเจ้าจอม เป็นถึงดอกไม้  IMPORT มาจากต่างประเทศ  มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และหมู่เกาะเวสต์อินดีส นำมาปลูกในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันปลูกอยู่ในเขตพระราชวังดุสิตเพียง 1 ต้น สภาพต้นไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร จึงสมควรจะได้มีการอนุรักษ์ไว้
เหตุที่ชื่อ  “แก้วเจ้าจอม” เพราะเป็นไม้ของเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ในครั้งรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริสร้างสวนสุนันทาขึ้นเป็นที่ ระลึกถึงพระมเหสี คือ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ โดยในสวนดัง กล่าวแวดล้อมไปด้วยไม้นานาพรรณ และมีต้นแก้วเจ้าจอมซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงนำมาปลูกไว้ในวังแห่งนี้ด้วย ลักษณะดอกจะเหมือนดอกแก้ว แต่ กลีบดอกเป็นสีม่วงเงิน เกสรสีเหลืองเหมือนใบแก้ว แต่กลมและป้อมกว่า  ม.ร.ว.พาส์นพูนศรี  กฤษณะจันทร์  เคยให้สัมภาษณ์ว่า ในสมัยนั้นยังไม่เคยมีใครเห็นดอกแก้วเจ้าจอม จนกระทั่งเมื่อผู้เชี่ยวชาญทั้ง หลวงบุเรศ บำรุงการ และศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันท์ ได้เข้ามาศึกษาพันธุ์ ไม้ในสวนสุนันทา ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันท์ จึงเป็นผู้ตั้งชื่อแก้วเจ้าจอม หรือน้ำอบฝรั่งต้นนี้ 
ต้นแก้วเจ้าจอม เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกอยู่ในวังสวนสุนันทาเป็น แห่งแรก เป็นไม้ที่มีความงามแปลกกว่าไม้ดอกอื่นๆ คุณหญิงกรองแก้ว ปุทุมานนท์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยสมัยนั้น จึงเลือกให้ต้นแก้วเจ้าจอมเป็นไม้ ประจำสถาบันราชภัฏสวนสุนันทา (ปัจจุบัน  คือ  มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา) 





ไม้มงคล = ดอกแก้วเจ้าจอม (Lignum Vitae) อีกชนิดหนึ่งที่น่านำเสนอ เป็นดอกไม้กลิ่นหอมสีม่วงอ่อน เป็นที่รู้กันในดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
PS สวยหรือเปล่าค่ะ ดอกแก้วเจ้าจอมสีม่วงค่ะ สวยมากๆ